แก๊งค้ากาม ขายเด็ก 13 กับนักการเมือง ปล่อยท้องเพื่อกันถูกจับ

แก๊งค้ากาม ขายเด็ก 13 กับนักการเมือง ปล่อยท้องเพื่อกันถูกจับ

เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.อ. ธนพล บินทปัญญา ผกก.สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน ได้เผยถึงความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์ของแก๊งนกฮูก2 ที่มีการบังคับค้าประเวณีในเด็กอายุเพียง 13 ปี โดยได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย และสามารถจับกุมได้แล้ว 4 ราย รวมถึงแม่เล้าเพิ่มเติมอีก 2 ราย จึงเหลืออีกเพียง 1 รายที่กำลังติดตามจับกุมอยู่

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ในเวลาประมาณ 15.00 น. 

มีเบาะแสว่า นายส. ซึ่งผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนีอยู่ และเป็นเจ้าของร้านซ่อมอัปเกรดและจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ บริเวณหน้าสถานีขนส่งแม่ฮ่องสอน ได้แอบย้อนกลับไปเก็บของที่ร้าน และหลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอให้ประชาชนที่พบเห็นรีบแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ทันที

ขณะที่แหล่งข่าวเผยว่า ปัจจุบันนี้ แก๊งค้าประเวณีในจ.แม่ฮ่องสอนมีอยู่ 2 กลุ่มด้วยกันได้แก่ แก๊งโดเรมอน ซึ่งใช้โสเภณีคนไทย และแก๊งนางฟ้าที่ส่วนใหญ่จะใช้โสเภณีชาวต่างด้าว ซึ่งอายุอยู่ระหว่าง 13-25 ปี และทั้งสองกลุ่มนี้เคยอยู่ในเครือข่ายแก๊งนกฮูกมาก่อน แต่เมื่อแก๊งนกฮูกถูกทลายและเรื่องเริ่มเงียบ เครือข่ายที่เหลือก็กลับมาค้าประเวณีอีก โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักการเมืองท้องถิ่น อาทิ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่รัฐ และนักท่องเที่ยวจากต่างถิ่นโดยทั่วไป

ทั้งสองแก๊งนี้ จะใช้วิธีนัดพบแขกตามสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านเหล้า ผับ สวนอาหาร หรือแม้แต่สนามฟุตบอล บริเวณหน้าสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแม่ฮ่องสอน หนองจองคำ และร้านสะดวกซื้อภายในปั๊มน้ำมันใจกลางเมือง และเมื่อแก๊งเหล่านี้เริ่มรู้ระแตะระคายว่าถูกจับตามอง ก็จะปล่อยให้ผู้หญิงที่ขายบริการตั้งท้องเพื่อป้องกันการจับกุม เนื่องจากเห็นว่า ก่อนหน้านี้มีแม่เล้าคนหนึ่งถูกจับกุมขณะกำลังตั้งท้อง ทำให้เจ้าหน้าที่สงสารและปล่อยตัวไป

แหล่งข่าวระบุอีกว่า กลุ่มหญิงค้าประเวณีที่เป็นต่างด้าวนั้น ทำไปเพราะต้องการสัญชาติไทยในการทำบัตรประชาชน และหากเป็นเยาวชนและกำลังเรียนหนังสือจะเสียค่าใช้จ่ายเพื่อทำบัตรประชาชน 35,000 บาท ส่วนผู้ใหญ่จะต้องเสียค่าทำบัตรประชาชน 50,000 บาท จึงต้องค้าประเวณีเพื่อความอยู่รอด

ในแชทที่คุยกันนั้น ทางนายอภิวันท์ ได้ขอร้องไม่ให้ผู้เสียหายแจ้งความ โดยวิงวอนให้เห็นแก่ลูกของตน อย่าขึ้นโรงขึ้นศาล ไม่อยากให้ครอบครัวรู้ ขอโทษที่ทำร้าย หากจะให้ครอบครัวรู้ ขอยอมตายเสียดีกว่า และถามว่าอยากให้ชดใช้อย่างไร

นอกจากนี้ ทางตำรวจสภ.เมืองอุดรธานี ยังเผยถึงความคืบหน้าของคดีว่า 

ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจริปิด และสอบสวนผู้เสียหายแล้ว โดยผลตรวจร่างกายก็พบว่ามีแผลฉีกขาดในช่องคลอด 2 รอย ซึ่งจะเรียกตัวผู้เสียหายมาสอบสวนพร้อมผู้ต้องหาอีกครั้ง ในวันที่ 24 ก.ย. นี้

ส่วน นางสุมาลี อายุ 60 ปี แม่ของนายอภิวันท์ เผยว่า ลูกชายได้นำขันดอกไม้ธูปเทียนมาไหว้ และสารภาพความจริงให้ฟัง และบอกว่าผิดไปแล้ว ตนรู้สึกสงสารและให้อภัยลูกชาย เพราะที่ผ่านมาลูกชายเป็นคนดี เรียนจบมหาวิทยาลัย ผ่านการบวชและเป็นทหารมาแล้ว ตนสงสารลูกและเมียของลูกชายที่ต้องมาพบเรื่องแบบนี้ โดยตนยินดีจะชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่ขอร้องว่าอย่าเรียกเงินค่าปรับมากก็พอ และอ้างว่าพวกตนเองก็หาเช้ากินค่ำ และยืนยันว่าจะพาลูกชายไปขอขมาผู้เสียหาย และอยากให้เห็นใจครอบครัวตนด้วย

นายอภิวันท์ ระบุว่า ขณะนี้ตนกับครอบครัวสภาพจิตใจย่ำแย่ ตนยอมรับผิดในสิ่งที่ทำและอยากให้ยกโทษให้ ยอมรับว่าวันที่เกิดเหตุเห็นอีกฝ่ายเมา และมาขอให้ตนลูบหลังให้ จึงทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ ซึ่งเป็นอารมณ์ชั่ววูบ อีกทั้งขณะเกิดเหตุยังไม่เห็นว่าฝ่ายผู้เสียหายขัดขืนจึงนึกว่าสมยอม นอกจากนี้ ยังเผยว่า ตนไม่อยากให้เป็นข่าวใหญ่ขนาดนี้ ตนเสียใจแต่ก็ไม่รู้จะรับผิดชอบเช่นไร เรื่องเกิดขึ้นแล้วก็ย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ จากนี้อยากคุยกับทางผู้ปกครองของผู้เสียหายว่าจะให้รับผิดชอบอย่างไร

ด้านบริษัท แกร็บ ประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ทางบริษัทรับทราบข้อมูลที่เกิดขึ้นแล้วและขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบริษัทฯ ได้ติดต่อไปหาผู้โดยสารที่ได้รับความเสียหายทันที เพื่อปลอบขวัญและให้ความช่วยเหลือเต็มที่ พร้อมแนะนำให้ผู้โดยสารเข้าแจ้งความและตรวจร่างกาย พร้อมกันนี้ ทางบริษัทฯ ได้ระงับสัญญาของพาร์ตเนอร์ผู้ขับขี่รายดังกล่าวอย่างถาวร จะไม่สามารถให้บริการผ่านแกร็บได้อีกต่อไป ซึ่งนับเป็นการลงโทษขั้นสูงสุด เพราะได้ทำผิดกฎและข้อบังคับร้ายแรง โดยทางบริษัทฯ พร้อมให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และสนับสนุนการทำงานของทางตำรวจ เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป

จากกรณีที่สาวใหญ่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pasnee Kornsritipa โพสต์ภาพรถเบนซ์ของตนในสภาพพังยับ หลังถูกชายขับรถไล่ชนรถเบนซ์ของตน และใช้เหล็กทุบรถของตนจนกระจกพังยับ ก่อนจะขับรถหลบหนีไปอย่างใจเย็น โดยล่าสุดตำรวจได้ตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อไล่ล่าตัวแล้ว

โดยผู้โพสต์ได้ระบุในโพสต์ว่า ‘ฝากแชร์ด้วยค่ะ รบกวนเผื่อใครอยู่สี่แยกบางนาหน้าไบเทคเวลสประมาณ 18.20 น. เห็นเหตุการณ์รถเบนซ์โดนชายขับรถกะบะ chevroret (ขนล้อรถ) ขับชนเข้ากลางลำ (เข้าใจว่าเพื่อล็อครถให้ไปไหนไม่ได้) แล้วเอาของแข็งตีรอบคัน(ดังภาพ) ผู้เสียหายไม่มีทะเบียนรถมีแต่รูปรถ บริเวณนั้นไม่มีกล้อง เหตุเกิดจากโดนรถกะบะปาดหน้าก่อนสัก 100 เมตรที่จะถึงหน้าสะพานไปสุขุมวิทแล้วตกใจบีบแตรใส่

แนะนำ : เคล็ดลับต่างๆ | เว็บรวมวิธีต่างๆ How to | จัดอันดับซีรีย์ | รีวิวครีม